TFT: Teamfight Tactics ได้เปิดให้บริการในโซน Asia Pacific แล้ว นี่คือเกมแนว Multiplayer PvP auto battler ที่สนุกสำหรับทุกคน! ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้น ฉบับคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเร็วขึ้น และสามารถเลื่อน Rank ได้อย่างมั่นใจ! นี่เป็นเกมจากสตูดิโอผู้พัฒนา League of Legends ที่ให้คุณสร้างทีมและต่อสู้ในรูปแบบของ auto battler โดยจัดวางตัวละครและกลุ่มตัวละครให้เหมาะสมตามยกที่คุณมีอยู่ เกมนี้มีการวางแผนที่สำคัญ โดยใช้ตัวละครจากเกม LOL มาในรูปแบบแตกต่างที่ท้าทาย สำหรับคนที่ชอบเกมการ์ดหรือการวางแผนการโจมตี และหลงใหลในตัวละครจากเกมนี้ คุณสามารถเข้ามาเล่น TFT ได้เลย! ทั้งไอเทม ดีไซน์ตัวละคร และสกิล มาจากเกม League of Legends ทั้งหมดเลยทีเดียวครับ!
ในเกม TFT (Teamfight Tactics) ตัวละครที่เราเรียกว่า Champions หรือแชมเปียนส์ ถูกจัดอยู่ใน SET ที่มีทั้งหมด 60 ตัวในกลุ่มดนตรีเดียวกัน. สิ่งนี้ทำให้มันไม่ต้องยุ่งยากเกี่ยวกับคำว่า "SET" คือกลุ่มของตัวละครที่ถูกเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการอัพเดตใหม่ (แพทช์). แต่ละ Champions จะมีคลาสและเผ่าของตัวเองซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการเล่นร่วมกับ Champions อื่นๆ ตัวอย่างเช่น Jinx อยู่ในเผ่า Punk และมีคลาส Rapidfire ซึ่งส่งผลต่อความสามารถของเธอ. นอกจากนี้แล้ว ทุก Champions ยังมีสกิลจากเกม League of Legends โดยมีเพียงสกิลเดียวในแต่ละตัว
ในโหมด REMIX RUMBLE ที่เรากำลังเล่นอยู่ มี Champions ทั้งหมด 5 ระดับราคาต่างกันคือ 1, 2, 3, 4, และ 5 บาท แต่ละ Champions จะมีการแบ่งระดับความสำคัญอย่างชัดเจนตามดาวที่ตัวละครเป็น ตั้งแต่ 1 ถึง 3 ดาว. เมื่อเราจับตัวละครระดับ 3 ดาว เราจะต้องมีตัวละครระดับ 1 ดาว 3 ตัวและจับมาด้วยกัน เพื่อทำให้ตัวละครนั้นอัพเกรดเป็นระดับ 2 ดาว. บางครั้งเราอาจจะต้องมีสัดส่วนของตัวละครระดับ 2 ดาว 3 ตัว (รวมทั้งหมด 9 ตัว) เพื่อทำให้เกิดตัวละครระดับ 3 ดาว. นี่เป็นจุดที่เราต้องการให้ความสำคัญ เพราะการจัดการตัวละครระดับ 3 ดาว เป็นสิ่งที่สำคัญ เช่นการเน้นแครี่หลักหรือแท็งค์ ที่เป็นจุดสำคัญในการก่อตัว
คลาส:
- Big Shot
- Bruiser
- Breakout
- Crowd Diver
- Dazzler
- Edgelord
- Executioner
- Guardian
- Mosher
- Rapidfire
- Sentinel
- Spellweaver
- Superfan
เผ่า:
- 8-Bit
- Country
- Disco
- EDM
- Emo
- HEARTSTEEL
- Hyperpop
- ILLBEATS
- Jazz
- K/DA
- Maestro
- Mixmaster
- Pentakill
- Punk
- True Damage
- Wildcard
สำหรับ SET 10 นี้ บาง Champions จะมีสกิล Headliner ที่จะให้บัฟพิเศษ การดูรายละเอียดของสกิลนี้สามารถทำได้โดยการสังเกตการณ์ในขณะที่คุณกำลังเลือกซื้อ Champions ซึ่งจะมีรูปแบบของคลื่นเสียงที่เป็นตัวบ่งชี้บนหน้าจอตามภาพที่แสดงขึ้นในเกมนั่นเองค่ะ!
ใน TFT, เราจะต้องใช้การจัดเด็คหรือ Team Comps เพื่อสร้างทีมที่มีความสมดุลสำหรับการต่อสู้ในเกม ทีมที่ดีจะประกอบด้วยแครี่ (carry), แทงค์ (tank), บัฟ (buffer) และบทบาทอื่นๆ ต่างๆ ในทีม การจัดตำแหน่งของ Champions ในทีมจะช่วยให้ได้บัฟพิเศษตามสไตล์และยูนิตที่เราวางไว้ เมื่อเราสามารถวางยูนิตต่างๆ ตามสไตล์และบทบาทที่ต้องการในทีมครบถ้วน ก็จะได้รับบัฟพิเศษตามที่เราวางไว้
แต่ละคนมีความชอบตัวละครและสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน การเลือกตัวละครที่สอดคล้องกับบทบาทและยูนิตที่ต้องการเล่นจะมีความสำคัญ การจัดเด็คใน TFT ทำได้โดยการเลือกตำแหน่งของ Champions ในส่วนของ Team Comps ซึ่งจะทำให้ตัวละครที่เราต้องการขึ้นเป็นไฮไลท์ในร้านค้าเมื่อมีท่านเลือกดู ทำให้เราสามารถสร้างทีมที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลในการต่อสู้ในเกมได้!
เกมนี้ใช้ผู้เล่นทั้งหมด 8 คนในการแข่งขัน และผลการแข่งขันจะตัดสินโดยการทำให้ HP ของอีกฝ่ายหมดก่อน โดยเป็นการแข่งขันแบบ Multiplayer PvP auto battler ที่จับคู่ผู้เล่นเป็นคู่ๆ 2 คน เพื่อหาผู้ชนะในแต่ละรอบ ผู้เล่นที่อยู่ในอันดับ 1 ถึง 4 จะได้รับคะแนนแต้มโดยผู้อันดับ 1 จะได้รับคะแนนมากที่สุด และคะแนนจะลดลงตามอันดับไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ 4 แต่ผู้เล่นที่อยู่ในอันดับ 5 ถึง 8 จะไม่ได้รับคะแนนและยังถูกหักคะแนนอีกด้วย ดังนั้น การเล่นให้มุ่งหน้าไปที่ท็อป 4 เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคะแนนและการเล่นที่มีประสิทธิภาพในเกมครับ!
การเล่นใน TFT จะแบ่งออกเป็นรอบต่างๆ ซึ่งการสร้างเลเวลมีความสำคัญอย่างมากในเกม เมื่อเพิ่มเลเวลสามารถวางยูนิตได้มากขึ้น และมีโอกาสสุ่มตัวละครที่มีความสำคัญมากขึ้นด้วย การเพิ่มเลเวลสอดคล้องกับเด็คที่เล่นเป็นส่วนสำคัญ เพราะบางเผ่าต้องการอัปเกรดช้าและบางเผ่าต้องการอัปเกรดเร็ว
รอบต่างๆ จะมีดังนี้:
- รอบ 1-7: เป็นการเก็บของและต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มทรัพยากร
- รอบ 2-7: การสู้รบ PVP กับผู้เล่นอื่นๆ แบบสุ่ม
- รอบ 3-7: การสู้รบ PVP กับผู้เล่นอื่นๆ แบบสุ่ม
การเล่นจะวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้เล่น 4 อันดับแรกที่ชนะ เข้าสู่รอบโบนัสที่จะให้ผู้เล่นเข้าไปในเก้าอี้ดนตรีและเลือกไอเท็มและตัวละคร ในรอบโบนัสนี้ ควรเลือกไอเท็มก่อนเพราะเป็นจุดสำคัญของเกม เพื่อให้ตัวละครของเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขอบคุณภาพจาก Cr. Zalvo ครับ!
ในเกมนี้เราจะใช้เงินในการซื้อ Champions และใช้อัปเกรดเลเวลของเรา เราต้องการบริหารการเงินอย่างเหมาะสมกับจังหวะของเกม โดยเราจะได้เงินจากการชนะหรือแพ้ในเกม หรือจากการขายตัวละครที่ไม่ต้องการ
ระบบการได้เงินในเกมมี 4 แหล่งรายได้พื้นฐานหลังจบรอบทุกคนที่เป็นเท่ากัน:
- รายได้พื้นฐาน +5 บาท
- ดอกเบี้ย (สูงสุด +5 บาท)
- ชนะ/แพ้ต่อเนื่อง +1-3 บาท
- จำนวนทองที่ได้ต่อการชนะ +1
ยกตัวอย่างหากเราชนะต่อเนื่องใน 1 รอบ และมีเงินสะสมมากมาย การได้รับเงินจากการชนะต่อเนื่องและการสะสมเงินเราอาจจะได้รวมถึง 5 + 5 + 3 + 1 = 14 บาท ในหนึ่งรอบเกมครับ!
โบนัสจากการชนะหรือแพ้ต่อเนื่องมีรายละเอียดดังนี้:
- ชนะหรือแพ้ 2-3 รอบติดกัน: ได้รับเงินเพิ่ม 1 บาท
- ชนะหรือแพ้ 4 รอบติดกัน: ได้รับเงินเพิ่ม 2 บาท
- ชนะหรือแพ้ 5+ รอบติดกัน: ได้รับเงินเพิ่ม 3 บาท
ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเก็บเงินจากจำนวนทองที่มีเพื่อให้ได้รับเงินเพิ่มมีดังนี้:
- เงินสะสม 10 ได้เพิ่ม 1+
- เงินสะสม 20 ได้เพิ่ม 2+
- เงินสะสม 30 ได้เพิ่ม 3+
- เงินสะสม 40 ได้เพิ่ม 4+
- เงินสะสม 50 ได้เพิ่ม 5+ (สูงสุด)
การนำโบนัสจากการชนะแพ้ต่อเนื่องและดอกเบี้ยเก็บเงินมาคำนวณและจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพในเกมครับ!
ส่วนที่สำคัญที่สุดในเกมนี้คือการเลือกไอเท็มให้ตรงกับสไตล์การเล่นของตัวละคร บางตัวต้องการสิ่งที่เน้นทางกายภาพ และบางตัวต้องการอาวุธที่เน้นเวทมนต์ การเลือกไอเท็มสำหรับแครี่หรือแท็งค์ต่างๆ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นจุดสำคัญในการปรับแต่งทีมให้เหมาะสม
ในบทความต่อไปเราจะสรุปไอเท็มที่เหมาะกับแต่ละสไตล์การเล่นให้แน่นอน โดยในเกมเราสามารถเรียกดูสไตล์ของตัวละครได้จากการวางเมาส์ไปที่ตัวละคร ซึ่งจะทำให้เราทราบว่าตัวละครนั้นเป็นสไตล์ใด และควรให้ไอเท็มอะไรมากับตัวละครนั้นๆ โดยการเรียกดูไอเท็มคราฟจะมีตามที่เราวางเมาส์ไป เราควรเช็คส่วนนี้ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกไอเท็มไม่เหมาะสม ซึ่งส่วนนี้มักจะต้องพึ่งโชค แต่คำแนะนำเราจะช่วยให้การเลือกไอเท็มดีขึ้น
ในบทความถัดไปเราจะสรุปแนวทางการเล่นที่ดีกว่าให้กับแต่ละสไตล์ครับ
ในเกมนี้มีระบบ Augment ที่ช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษให้กับการเล่น ซึ่งเราสามารถเลือกการ์ดพิเศษเหล่านี้เป็นบัฟที่ช่วยให้การเล่นเราง่ายขึ้น มีมากกว่า 100 การ์ดที่เป็นแบบสุ่ม การ์ดเหล่านี้ทำให้การเล่น TFT มีความหลากหลายและสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น เนื่องจากบางการ์ดช่วยเพิ่มเงินหรือเสริมความสามารถของทีมได้มากเลย
การเลือก Augment จะเกิดขึ้นในรอบ 2-1, 3-2, และ 4-2 ในแต่ละเกม เราสามารถได้รับบัฟสูงสุดได้ 3 ใบในเกมหนึ่งครั้งและเราต้องเลือก Augment ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของทีมในขณะนั้น
สำหรับผู้เล่นใหม่ที่ต้องการศึกษาพื้นฐานของเกม TFT: Teamfight Tactics ผมขอแนะนำ Comps ของ Punk + Emo Set Reroll ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีในการฝึกการบริหารทรัพยากรและการวางยูนิตและผสมยูนิตในเกม
Comps ใน Set นี้เน้นไปที่ตัวละครที่ง่ายต่อการหา มีตัวละครหลักๆ ที่ต้องขึ้นเป็น 3 ดาวก่อนเป็น Champions ที่มีราคา 1 - 3 บาท ซึ่งง่ายต่อการหาเนื่องจากส่วนใหญ่มีสองถึงสามตัวที่สามารถขึ้น 3 ดาวได้ง่าย ๆ ผ่านการ Reroll ทำให้สามารถสร้างคอมโบได้อย่างง่ายดาย
Comps Punk มีจุดเด่นในการลด COST ราคาของการสุ่มครั้งแรกลงที่ 1 บาท และยิ่งสุ่มจะได้สแต็คบัฟพิเศษ ดังนั้นเป็นเด็คที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะเริ่มต้นเรียนรู้เกม
จุดเด่น: มีแครี่ที่สามารถใช้ดาเมจเวทย์หลักจาก Annle และดาเมจกายภาพจาก Jink
จุดอ่อน: แครี่มีเลือดน้อยและชอบถูกโจมตีจากแก๊ง Pentakill หรือตัวละครที่สามารถล่วงตัวหลังได้
แนะนำให้หาแท็งค์และแครี่มาก่อนเพื่อสร้างฐานะที่แข็งแกร่งในการตั้งบอร์ดครับ!
การอัป LV. ในเกมนั้นควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อความสามารถในการเล่นเป็นไปได้ดีที่สุด:
ขั้นตอนที่ 1: รอบ 2 - 6 ควรอัพ LV. เป็น LV.5 แล้ว
ขั้นตอนที่ 2: รอบ 3 - 7 หากชนะต่อเนื่องควรอัพ LV. เป็น LV.6
ขั้นตอนที่ 3: รอบ 4 - 7 หากยังคงชนะต่อเนื่องควรอัพ LV. เป็น LV.7
เคล็ดลับ: Comps ของ Punk + Emo Set Reroll มุ่งเน้นที่จะคงอยู่ใน LV. 5 - 6 เพราะช่วงนี้มีโอกาสในการได้ตัวละครระดับ 1-3 ดาวเยอะมาก ดังนั้นควรรีบหาตัวละครหลักในระดับ 3 ดาวในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับใครที่กำลังหาเว็ปไซต์เติมเกมราคาถูก เเละจำต้องได้ โดยที่เติมเข้าทันทีไม่ต้องรอเเละ ยังมีเกมอื่นๆอีกมากมาย สามารถเริ่มต้นสั่งซื้อได้ที่ปุ่มเติมเกม ได้เลย!
เติม TFT: Teamfight Tactics เข้าทันที!